บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปัญหายาเสพติด

ปัญหายาเสพติด
ประวัติของยาเสพติด            ยาหรือสารที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดๆหรือเสพติด มีใช้กันมานานตั้งแต่มนุษย์เริ่มค้นพบ  พืชซึ่งเมื่อเสพเข้า ไปแล้วทำให้ ระดับความรู้สึกตัว เปลี่ยนแปลงไปในสมัยโบราณยาหรือสาร เหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนา เช่นผู้ทำพิธีทางศาสนาของชาวอินเดียแดง  ในอเมริกากลางใช้ต้นไม้จำพวกกระบองเพชรซึ่งมีสารหลอนประสาท ทำให้ เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพ ต่าง ๆ และเข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้าได้ ชาวอินเดียนแดง เผ่าอินคา (Incas) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา (COCA) ซึ่งมีโคเคน โดยถือว่าเป็นของขวัญ ที่พระเจ้า ประทานให้ แต่แรกใบโคคานี้ใช้เฉพาะในหมู่พวกกษัตริย์ของเผ่า แต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปน  เข้าครอบครองชนเหล่านี้ ใบโคคา ก็ถูกนำมาใช้ในหมู่ชาวอินเดียนแดงทั่วไปเพื่อช่วยให้พวกเขามีกำลังทำงานหนักรับใช้ชาวสเปนได้ เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญ ก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติด  ก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้นและมี การนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดกันมาก ตัวอย่างเช่น ฝิ่น เป็นที่รู้จักและจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลโดยชาว เมโสโปเตเมีย (๕,๐๐๐ ปีก่อนคริสต ศักราช) และแพร่หลาย และรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคบิด โรคติดสุรา ฯลฯ ได้
           นานทีเดียวกว่าอังกฤษจะรู้ฤทธิ์ในการเสพติดของฝิ่น และ เมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้  เพื่อ การเสพติด โดยอังกฤษพยายามนำ เอาไปแพร่ ในเมืองจีนเพื่อให้ชาวจีนติดฝิ่นและตนเอง ผูกการค้า ฝิ่นแต่ผู้เดียว จนกระทั่งเกิดสงคราม ฝิ่นกับประเทศจีนในปี ค.ศ.๑๘๓๙ - ๑๘๔๒  ประเทศไทยก็มีประวัติการเสพฝิ่นมา  ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑  แห่งกรุงศรีอยุธยา (พระเจ้าอู่ทอง) ประมาณ ๖๐๐ ปีเศษมาแล้ว ในสมัยนั้นก็มี หลักฐานว่าพระมหากษัตริย์ทรง เล็งเห็นโทษของการเสพฝิ่น และทรงลงโทษผู้เสพติดเช่นกัน ระหว่างสงครามกลางเมือง ของสหรัฐอเมริกา (American civil war) ค.ศ. ๑๘๖๑ - ๑๘๖๕ เริ่มมีการนำเข็มฉีดยา เข้าใต้ผิวหนังมาใช้ ทำให้มีผู้นำมอร์ฟีนมาใช้ในลักษณะยาเสพติด  ต่อมาเมื่อคนรู้จักการฉีดยา
เข้าหลอดเลือดดำ เฮโรอีนซึ่งเป็น diethylated form  ของมอร์ฟีนก็ถูกนำมาใช้แทนมอร์ฟีน กลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ มีการนำเอาโบรไมด์ (Bromide) มาใช้เป็นยาสงบประสาท  และรักษาโรคลมชัก ซึ่งได้รับความนิยมมากพอ ๆ กับยา วาเลียม (Valium) และยาริเบรียม (Librium) ในปัจจุบัน แต่โบรไมด์สำสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการวิกลจริต และลายสมอง อย่างถาวรด้วย ในระยะใกล้เกียงกันก็มีผู้ผลิตยาบาร์บิทุเรท (Barbiturate) และยาสงบ  ประสาทตัวอื่น ๆ และได้รับความนิยมใช้อย่างแพร่หลายเช่นกัน โดยผู้ใช้ไม่ทราบถึง ฤทธิ์ใน การเสพติดของยาเหล่านี้ ปลายคริสตศตวรรษที่ ๑๙ มีผู้พบโคเคนและกัญชาซึ่งมีฤทธิ์  ทำให้จิตใจสบาย โคเคนพบว่า มีประโยชน ์ทางการรักษาโรคด้วยโดยใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ดังนั้น โคเคน  จึงเป็ฯที่นิยมใช้เป็นผลให้มีการเสพติดโคเคน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ แอมเฟตามีนถูกนำมาใช้ในกองทหารญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกัน และอังกฤษ เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา พอหลังสงครามยา ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นกักตุน ไว้มาก็ทะลักสู่ตลาด ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่น ใช้ยากันมาก ในปี ค.ศ.๑๙๕๕ คาดว่ามีชาวญี่ปุ่นติดแอมเฟตามีนราว
ร้อยละ ๑ ระหว่าง ค.ศ.๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ในประเทศสวีเดนมีการใช้ยา Phenmetrazine (Preludin) ซึ่งคล้ายแอมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือด ดำด้วย ในสหรัฐเมริกาพวกฮิปปี้ซึ่งเคย นิยมใช้ แอลเอสดี (LSD) หรือ Lysergic Acid Diethylamide) ก็ค่อย ๆ หันมาใช้แ อมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ เช่นกัน ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ยาหลอนประสาท
เริ่มถูกนำมาใช้และใช้มากหลัง ค.ศ. ๑๙๗๐ ผู้เสพส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันวัยรุ่นที่มีฐานะทาง  เศรษฐกิจปานกลางโดยเริ่มจาก แอลเอสดี ซึ่ง Hofmann เป็นผู้ค้นพบในปี ค.ศ.๑๙๕๓ เนื่องจากแอลเอสดีทำให้เกิดอาการล้าย วิกลจริต จึงมีนักจิตวิเคราะห์บางคนนำมาใช้เพื่อ การรักษาผู้ป่วนด้วย เพราะคิดว่ายานี้จะช่วยกำจัด "Repression" ให้หมดไป ด้วยเหตุที่ยานี้
ผลิตง่ายปัจจุบันจึงเป็นปัญหามากในเมริกา
            เนื่องจากกัญชาซึ่งเป็นยาช่วยให้ผู้เสพรู้สึกเป็นสุขและความรู้สึกไวขึ้น เป็นยาที่หาได้ง่าย จึงมีการลักลอบใช้อย่างผิดกฎหมาย กันมาในเมริกา ตั้งแต่ ปี ค.ศ.๑๙๖๐ เป็นต้นในยุโรป ก็เช่นกันเพิ่งจะมีการใช้กัญชาในเวลาไล่เลี่ยกันนี้โดยทหารของกษัตรย์นโปเลียน เป็นผู้นำมาจาก ประเทศอียิปต์ทั้ง ๆ ที่กัญชาเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในประเทศอินเดีย และประเทศ ในเอเชียตะวันออกกลาง มาก่อนหลานศตวรรษ ในสหรัฐนิยมใช้ในคนบางกลุ่ม เช่น พวกนัก ดนตรีแจ๊สและ พวกเม็กซิกันอพยพมาอยู่ในสหรัฐ ในฝรั่งเศสเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มนักประพันธ์ ถ้าจะนับตามจำนวนผู้เสพติด หรือผู้ใช้ยาอย่าง ๆ ผิด ๆ สุราและบุหรี่ น่าจะเป็น สารสำคัญของ ปัญหานี้ แต่เนื่องจากราคาย่อมเยา สามารถหามาเสพได้ง่ายกว่าและไม่ผิดกฎหมาย ทำให้สาร ๒ ชนิดนี้ ดูจะไม่มีความสำคัญเท่าใดนักแต่กัญชา ยาหลอนประสาท และเฮโรอีน จำนวนผู้ใช้ ละ ผู้เสพติดน้อยกว่ากลับเป็นปัญห สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮโรอีนกำลังเป็นปัญหา มากในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ทั้งนี้เพราะเป็นสารซึ่ง มีราคา แพงและผิดกฎหมาย ทั้งอำนาจในการเสพติดก็สูงและวิธีบางวิธียังอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจึงก่อให้เกิดปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและ การแพทย์จนต้อง จัดเป็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศอย่างหนึ่งที่ต้องรีบแก้ไข
ความหมายของยาเสพติดให้โทษ
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ กำหนดความหมายของคำว่ายาเสพติดให้โทษ ไว้ดังนี้ คือ สารเคมีหรือวัตถุชนิดใด ๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดย วิธี รับประทาน ดม สูบ หรือด้วยวิธีการใด ๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะ  สำคัญ เช่น ผู้ที่เสพยา ต้องเพิ่มขนาดการเสพติดมากขึ้นเป็นลำดับผู้ที่เสพยา จะเกิดอาการถอนยา เมื่อหยุดใช้ยาหรือขาดยาผู้ที่เสพยา จะเกิดความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่าง รุนแรงตลอดเวลาผู้ที่เสพยา จะมีสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลงหรือกล่าวได้ว่าเป็นยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ที่ผู้นั้นใช้อยู่ประจำแล้วยาหรือสารนั้นทำให้มีความผิดปกติ  ที่ระบบประสาทกลางซึ่งจะถือว่าผู้นั้นติดยากเสพติดถ้ามีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย ๓ ประการ
คือหรือกล่าวได้ว่าเป็นยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ผู้นั้นใช้อยู่ประจำแล้วยาหรือสาร  นั้นทำให้มีความผิดปกติที่ระบบประสาทกลางซึ่งจะถือว่าผู้นั้นติดยากเสพติด ถ้ามีอาการต่อไปนี้ อย่างน้อย ๓ ประการคือ ผู้ป่วยจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยาหรือสารนั้นมาไว้ แม้เป็นวิธีที่ผิด กฎหมาย เช่นลักขโมยก็จะทำผู้ป่วยไม่สามารถ ปฏิบัติงานตามปกติได้เนื่องจากมีอาการพิษหรือ อาการขาดยาหรือสารนั้นพฤติกรรมของผู้ป่วยเปลี่ยนไป เช่น หยุดงานบ่อยหรือไม่เอาใจใส ่ครอบครัวผู้ป่วยต้องเสพยาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (มี Tolerance) เมื่อหยุดเสพหรือลดปริมาณการ เสพลงมาจะเกิดอาการขาดยาหรือสารนั้น  

ประเภทของสิ่งเสพติด
         สิ่งเสพติดในปัจจุบันมีมากมายหลายอย่างซึ่งแพร่หลายและมีการเสพติดกันอย่างมาก   การแบ่งประเภทของสิ่งเสพติดจึงแบ่งได้หลาย ๆ แบบ
         แบ่งตามลักษณะการผลิต
         - สิ่งเสพติดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ สิ่งเสพติดที่ได้จากพืชที่มีอยู่แล้วตาม  ธรรมชาติ เช่น ฝิ่น กัญชา กระท่อม เห็ดขี้ควาย เป็นต้น
         - สิ่งเสพติดสังเคราะห์ ได้แก่ สิ่งเสพติดที่ผลิตด้วยกรรมวิธีทางเคมี เช่น เฮโรอีน มอร์ฟีน โคเคน เซคโคนาล แอมเฟตามีน กาว ทินเนอร์ เป็นต้น
          แบ่งตามลักษณะการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
          - ประเภทออกฤทธิ์กดประสาท จะมีฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง ประสาทชา ง่วงซึม
หมดความเป็นตัวของตัวเอง ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน โคเคน เฮโรอีน ยาระงับประสาท ยานอนหลับ  เซคโคนาล หรือยากล่อม ประสาท สารระเหย
         - ประเภทออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท จะมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการตื่นเต้น ตลอดเวลา
ไม่รู้สึกง่วงนอน แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาผู้เสพจะหมดแรง เพราะร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน ได้แก่ แอมเฟตามีน หรือยาม้า กระท่อม
        - ประเภทออกฤทธิ์หลอนประสาท จะมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพ ลวงตาหูแว่ว อารมณ์แปรปรวน อาจทำอันตรายต่อชีวิตผู้อื่นและตนเอง ได้แก่ แอล เอส ดี หรือ  เหล้าแห้ง เห็ดขี้ควาย
        - ประเภทออกฤทธิ์กดประสาท และหลอนประสาทด้วย ได้แก่ กัญชา



สาเหตุสำคัญที่ทำให้ติดยาเสพติด
          โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น คือ
          1. จากการถูกชักชวน    การถูกชักชวนนี้อาจจะเกิดจากเพื่อนสนิทที่กำลังติดยาอยู่และอยากจะให้เพื่อนลองบ้าง ปัญหานี้มักจะเกิดกับเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวขาดความอบอุ่น ใจแตก เอาเพื่อนเป็นที่พึ่งนอกจากนี้ผู้ที่อยู่ในแหล่งที่มีการซื้อขายยาเสพติด  ก็อาจจะได้รับการ ชักจูง  คุณภาพของยาเสพติดว่าดีต่าง ๆ นานา เช่น อาจจะบอกว่า เมื่อเสพแล้วจะทำให้ปลอด โปร่ง  เหมาะแก่การเรียนการทำงาน การชักจูงดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ถูกชักจูง กำลังมึนเมา สุราเที่ยวแตร่กัน จึงทำให้เกิดการติดยาได้
           2. จากการอยากทดลอง อยากรู้อยากเห็น อยากจะรู้รสชาติ อยากสัมผัส โดยคิดว่าคงจะไม่ติดง่าย ๆ แต่เมื่อ ทดลอง เสพเข้าไปแล้วมักจะติด เพราะยาเสพติดในปัจจุบัน เช่น เฮโรอีน จะติดง่ายมาก แม้เสพเพียงครั้งหรือสอง ครั้ ก็จะติดแล้ว
            3. จากการถูกหลอกลวง ยาเสพติดมีรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ผู้ถูกหลอกลวงไม่ทราบว่าสิ่งที่ ตนได้กินเข้าไปนั้น เป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง คิดว่าเป็นยาธรรมดาไม่มีพิษร้ายแรง  อะไรตามที่ผู้หลอกลวงแนะนำผลสุดท้าย กลายเป็นผู้ติดยาเสพติดไป
            4. เหตุทางกาย ความเจ็บป่วยทางกาย เช่น ต้องถูกผ่าตัดหรือเป็นโรคปวดศีรษะ เป็นหืด เป็นโรคประสาทได้รับ ความทรมานทางกายมากผู้ป่วยต้องการบรรเทา พยายามช่วยตัวเองมานานแต่ก็ไม่หาย จึงหันเข้าหายาเสพติด จนติดยาในที่สุด
              5. จากความคึกคะนอง บุคคลประเภทนี้คิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งอยากลองซึ่งรู้แก่ใจว่ายาเสพติดให้โทษเป็นสิ่งไม่ดีแต่ด้วยความที่คึกคะนองเป็นวัยรุ่นไม่เกรงกลัวอะไร ต้องการแสดง   ความเด่นดังอวดเพื่อนว่าข้านี้คือพระเอก ขาดความยั้งคิดจึงเสพยา เสพติดและติดยาในที่สุด
               6. จากสิ่งแวดล้อม เช่น สถานที่อยู่อาศัยแออัด เป็นแหล่งสลัม หรือเป็นแหล่งที่มีการเสพและค้ายาเสพติด ภาวะ ทางเศรษฐกิจบีบคั้นจิตใจ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอิทธิพล เหนือ   จิตใจผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว บางคนหันมาพึ่งยาเสพติดโดยคิดว่าจะช่วย ให้ตนเองหลุดพ้นจากสภาพต่าง ๆ ที่คับข้องใจเหล่านั้นได้
  ลักษณะการติดยาเสพติด         ยาเสพติดบางชนิดก่อให้เกิดการติดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ยาเสพติดบางชนิด  ก็ก่อให้เกิดการติดทางด้านจิตใจเพียงอย่างเดียว
         ลักษณะทั่วไป

        ๑. ตาโรยขาดความกระปรี้กระเปร่า น้ำมูกไหล น้ำตาไหล ริมฝีปากเขียวคล้ำแห้งแตก (เสพโดยการสูบ)
        ๒. เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวแรง พูดจาไม่สัมพันธ์กับความจริง
        ๓. บริเวณแขนตามแนวเส้นโลหิต มีร่องรอยการเสพยาโดยการฉีดให้เห็น
        ๔. ที่ท้องแขนมีรอยแผลเป็นโดยกรีดด้วยของมีคมตามขวาง (ติดเหล้าแห้ง ยากล่อม  ประสาท ยาระงับประสาท)
        ๕. ใส่แว่นตากรองแสงเข้มเป็นประจำเพราะม่านตาขยายและเพื่อปิดนัยน์ตาสีแดงก่ำ
        ๖. มักสวมเสื้อแขนยาวปกปิดรอยฉีดยา โปรดหลีกให้พ้นจากบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว  ชีวิตจะสุขสันต์ตลอดกาล
        ๗. มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเสพยานั้นต่อไปอีกเรื่อยๆ
        ๘. มีความโน้มเอียงที่จะเพิ่มปริมาณของสิ่งเสพย์ติดให้มากขึ้นทุกขณะ
        ๙. ถ้าถึงเวลาที่เกิดความต้องการแล้วไม่ได้เสพจะเกิดอาการขาดยาหรืออย่ากยาโดย แสดงออกมา ในลักษณะอาการ     ต่างๆ เช่น หาว อาเจียน น้ำมูกน้ำตาไหล ทุรนทุราย คลุ้มคลั่ง ขาดสติ โมโห ฉุนเฉียว ฯลฯ
       ๑๐.สิ่งเสพย์ติดนั้นหากเสพอยู่เสมอๆ และเป็นเวลานานจะทำลายสุขภาพของผู้เสพทั้งทาง ร่างกายและจิตใจ
       ๑๑. ทำให้ร่างกายซูบผอมมีโรคแทรกซ้อน และทำให้เกิดอาการทางโรคประสาทและจิต  ไม่ปกติ
การติดยาทางกาย
        เป็นการติดยาเสพติดที่ผู้เสพมีความต้องการเสพอย่างรุนแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เมื่อถึง เวลาอยากเสพแล้วไม่ได้เสพ จะเกิดอาการผิดปกติอย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเรียกว่า "อาการขาดยา" เช่น การติดฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน เมื่อขาดยา จะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน หาว น้ำมูก น้ำตาไหล นอนไม่หลับ เจ็บปวดทั่วร่างกาย เป็นต้น
        การติดยาทางใจ
       เป็นการติดยาเสพติดเพราะจิตใจเกิดความต้องการ หรือ เกิดการติดเป็นนิสัย หากไม่ได้
เสพร่างกาย ก็จะไม่เกิดอาการผิดปกติ หรือ ทุรนทุรายแต่อย่างใด จะมีบ้างก็เพียงเกิดอาการ หงุดหงิด หรือกระวน กระวายใจเท่านั้น
เยาวชนกับยาเสพติด
อิทธิพลของเพื่อน
           เพื่อนเป็นคนสำคัญของเราก็จริงอยู่ แต่ถ้าเพื่อนมีอิทธิพลต่อเราในทางที่ไม่ดี พาไปเสีย   ผู้เสียคนในฐานะที่เราเป็นเพื่อนก็ต้องให้สติด้วยการตักเตือน และปฏิเสธไม่ทำตามและชักจูง  ให้เขาได้ใช้ชีวิตที่ถูกต้อง และดีงาม แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเหลือบ่ากว่าแรงก็คงต้องโบก มือลาเลิกคบเสียดีกว่า ถือคติที่ว่า มีเพื่อนดีเพียงหนึ่ง ถึงจะต้อง ดีกว่าเพื่อนร้อยเพื่อนเลว

          ถ้าเป็นเรื่องยาเสพติด ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องพิสูจน์   ด้วยตนเองแล้ว จึงเชื่อ แต่เรื่องยาเสพติดไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง เพราะกาลเวลาผ่านมา   กี่ยุคกี่สมัย ยาเสพติดก็ยังเป็น สิ่งที่มีโทษพิษภัยต่อร่างกาย และมีผลกระทบทำลายครอบครัว ชุมชน และความมั่นคงของประเทศชาติ หากลูกหลายจะลงทุนพิสูจน์ยาเสพติด ด้วยการ  ทดลองใช้ด้วยตนเองก็เป็นการลงทุนที่สูงมาก ไม่คุ้มกับการลงทุนเพราะยาเสพติดมีฤทธิ์ ทางเภสัช ทำให้เสพติดได้ และเลิกได้ยาก บางทีอาจสูญเสียเวลา และอนาคตกับเรื่องนี้ ี้ไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดทดลองเลยจะดีกว่า
เยาวชนจะต้องรู้เท่าทันผู้ค้ายาเสพติด
           เยาวชนส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน มีเงินอยู่ในกระเป๋าเสมอสําหรับค่าขนม และค่าใช้จ่าย   ส่วนตัวที่จำเป็น ซึ่งพ่อแม่และผู้ปกครองให้มา จึงทำให้ผู้ลักลอบค้ายาเสพติด  มีความมั่นใจ ว่าการค้ายาเสพติด ให้กับเยาวชน นั้นจะทำให้มีลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ และใช้กลยุทธในการขาย  แบบขายตรง(Direct sale) ในกลุ่มเพื่อนสนิท และด้วยความเป็นเพื่อนสนิท จึงไม่กล้าเปิดเผย   ความผิดของเพื่อน และไม่กล้า ปฏิเสธเพื่อน จึงทำให้การแพร่ ่ระบาด ยาเสพติดเป็นไป อย่าง กว้างขวางและรวดเร็ว จึงจำเป็นที่เยาวชนจะต้องรู้เท่าทันกลลวงของผู้ค้า ยาเสพติดที่จ้อง จะดูดเงินค่าขนมในกระเป๋าของเยาวชนตลอดมา

                ติดกีฬาก็มีความสุขได้
            การเล่นกีฬาไม่ใช่เป็นแต่เพียงกิจกรรมทางเลือกที่เบี่ยงเบนความสนใจของเยาวชนให้  ห่างไกลยาเสพติดเท่านั้น แต่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เชื่อว่า การออกกำลังกายหรือ   การเล่นกีฬานั้น จะทำให้ต่อมไร้ท่อใต้สมอง หลั่งสาร เคมีชนิดหนึ่งชื่อ เอนโดฟีนออกมา  ซึ่งสารชนิดนี้จะทำให้รู้สึกสดชื่น และ เป็นสุขผู้ที่ออก กำาลังกาย อยู่เสมอจึงมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์สมกับที่กล่าวว่า กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ” ดังนั้น จึงควรที่จะช่วย กันส่งเสริม ให้เ ยาวชน ได้ออก กำลังกายและเล่นกีฬา เพื่อให้มีสาร เอนโดฟีนอยู่ในร่างกายเกิดความสุขได้
โดยไม่ต้องพึ่งพายาเสพ

เยาวชนกับการป้องกันยาเสพติด
ปัจจุบันเยาวชนที่ตกเป็นทาสของยาเสพติด ส่วนมากมาจากสาเหตุหลายประการที่เกิดจากตัวเยาวชนเอง เช่น
       - ความอยากรู้ อยากทดลอง ความคึกคะนองของเยาวชน
       - ความต้องการให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อนหรือเข้ากับเพื่อนได้
       - ความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเยาวชนใช้ยาในทางที่ผิดหรือหลงเชื่อคำโฆษณา
       - จิตใจของเยาวชนเอง จิตใจอ่อนแแอ ใจคอไม่หนักแน่น เมื่อมีปัญหา ไม่สมหวัง ไม่ไตร่ตรอง หาเหตุผลเพื่อแก้ปัญหา ก็ใช้ยาหรือยาเสพติดเป็นเครื่องช่วยระงับความ รู้สึกทุกข์ ์ของตน ใช้บ่อยๆ ทำให้เกิดการเสพติด ฉะนั้น การป้องกันและแก้ไขตนเอง ของเยาวชน ให้ปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด สามารถกระทำได้โดย
      ๑. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด และระมัดระวังในการใช้ยา
      ๒. รู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดี ส่งเสริมให้คิดและกระทำสิ่งดีมีประโยชน์ กล้าพูดปฏิเสธเพื่อนที่ชักจูงไป ในทางที่ไม่ดี เช่น การพูดปฏิเสธเพื่อนที่ชวนให้ลองเสพยาเสพติด
      ๓. ใช้เวลาว่าง และความอยากรู้ อยากลอง ไปในทางที่เป็นประโยชน์พึงระลึกเสมอว่า ตนเองนั้น มีคุณค่าทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
      ๔. มีความภาคภูมิใจและนับถือตนเอง ด้วยการไม่พึงพาหรือเกี่ยวข้องอบายุมขและสิ่งเสพติดใดๆ ซึ่งจะนำความเสื่อม ไปสู่ชีวิตของตนเอง
      ๕.รู้จักแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเองด้วยเหตุและผล
      ๖. รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง ด้วยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่และประพฤติแต่ในสิ่งที่ดีงาม จะช่วยให้เยาวชนประสบกับความสำเร็จในชีวิต
      ๗. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส เข้าใจวิธีการดำเนินชีวิตและยอมรับความเป็นจริง ที่ตนเองเป็นอยู่ โดยนำหลักศาสนามาเป็น แนวทางในการดำเนินชีวิต จะช่วยให้เยาวชนเกิดความมั่น   คงทาง ด้านจิตใจ มากขึ้น
      ๘. เมื่อมีปัญหา รู้จักปรึกษาผู้ใหญ่ พ่อ แม่ หรือผู้ที่ไว้วางใจ หรือ หน่วยงานต่างๆ ที่รับให้คำปรึกษา ในฐานะที่เยาวชนเป็น สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว จึงควรมีส่วนช่วย พ่อแม่ ผู้ปกครอง
             
ารป้องกันปัญหายาเสพติดแก่ครอบครัวของตนเอง
       ๑. ช่วย พ่อ แม่ สอดส่องดูแลน้องๆ หรือสมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัวมิให้กระทำสิ่งที่ผิด เช่น การคบเพื่อนที่ไม่ดี การมั่วสุมในอบายมุขและสิ่งเสพติด เยาวชนควรทำตัวเป็น  แบบอย่างที่ดีแก ่สมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัวด้วย เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ความมีระเบียบวินัย ความขยันหมั่นเพียร
       ๒. ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว มีความรักใคร่กลมเกลียวและมีความเข้าใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อมีปัญหา
       ๓. เมื่อมีโอกาสควรบอกกล่าวหรือตักเตือนสมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัว โดยเฉพาะ  น้องๆ  ให้รู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยของ ยาเสพติดวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย
       ๔. ช่วยทำให้ พ่อ แม่ เกิดความสบายใจและภาคภูมิใจด้วยการประพฤติดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แบ่งเบาภาระหน้าที่การงาน ของพ่อ แม่ ภายในบ้าน
การป้องกันการติดยาเสพติด
       ๑. ป้องกันตนเอง ไม่ใช้ยาโดยมิได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และจงอย่าทดลอง เสพยาเสพติด ทุกชนิดโดยเด็ดขาด เพราะ ติดง่ายหายยาก
      ๒. ป้องกันครอบครัว ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวหรือที่อยู่รวมกันอย่าให้ กี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้อง คอยอบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษและภัยของยา-เสพติด หากมีผู้เสพ ยาเสพติด ในครอบครัวจงจัดการให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ให้หายเด็ดขาดการรักษาแต่แรก เริ่มติดยาเสพติด มีโอกาสหายได้เร็วกว่าที่ปล่อยไว้นานๆ
      ๓. ป้องกันเพื่อนบ้าน โดยช่วยชี้แจงให้เพื่อนบ้านเข้าใจถึงโทษและภัยของยาเสพติด โดยมิให้ พื่อนบ้าน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องถูกหลอกลวง และหากพบว่าเพื่อนบ้านติด ยาเสพติดจงช่วย แนะนำให้ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
       ๔. ป้องกันโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ เมื่อทราบว่าบ้านใดตำบลใด มียาเสพติดแพร่ ่ระบาดขอให้แจ้ง เจ้าหน้าที่ ตำรวจทุกแห่งทุกท้องที่ทราบ หรือที่ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด ให้โทษ กรมตำรวจ (ศปส.ตร.) โทร. 2527962 , 0-252-5932 และที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) สำนักนายกรัฐมนตรี
โทร. 2459350-9
                      ยาเสพติดป้องกันได้

       ๑. ป้องกันตนเอง ทำได้โดย..          • ศึกษาหาความรู้ เพื่อให้รู้เท่าทันโทษพิษภัยของยาเสพติด
          • ไม่ทดลองใช้ยาเสพติดทุกชนิดและปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน
          • ระมัดระวังเรื่องการใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทำให้เสพติดได้
          • ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
          • เลือกคบเพื่อนดี ที่ชักชวนกันไปในทางสร้างสรรค์
          • เมื่อมีปัญหาชีวิต ควรหาหนทางแก้ไขที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด หากแก้ไขไม่ได้ควรปรึกษา ผู้ใหญ่

         ๒. ป้องกันครอบครัว ทำได้โดย           • สร้างความรัก ความอบอุ่นและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว
           • รู้และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
           • ดูแลสมาชิกในครอบครัว ไม่ให้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
           • ให้กำลังใจและหาทางแก้ไข หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวติดยาเสพติด

     
    ๓. ป้องกันชุมชน ทำได้โดย           • ช่วยชุมชนในการต่อต้านยาเสพติด
           • เมื่อทราบแหล่งเสพ แหล่งค้า หรือผลิตยาเสพติด ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที
ที่...
           • สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. หรือ 02-2470901-19 ต่อ 258    โทรสาร    02-2468526       
           • ศูนย์รับแจ้งข่าวยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1688

การรักษาผู้ติดยาเสพติด
     ผู้ที่ติดยาม้าหรือยาบ้าส่วนใหญ่จะได้แก่ ผู้ที่ทำงานในเวลากลางคืนผู้ใช้แรงงาน หรือผู้ที่ต้องทำงาน ติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น พนักงานขับรถโดยสารหรือรถบรรทุก ผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนตลอดจนนักเรียนนักศึกษาที่หัก โหมในการดูหนังสือ เหตุที่เป็นคนเหล่านี้เพราะคนเหล่านี้มักเข้าใจผิดคิดว่าหากใช้ยาม้าหรือ ยาบ้าแล้วจะสามารถทำงานหรือดูหนังสือได้นานมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้คำนึงถึงอันตรายและผลร้าย  ที่ตามมาภายหลังซึ่งได้แก่ สุขภาพจะทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิดใจ เพราะสมองถูกกระตุ้น ให้ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา เมื่อยาหมดฤทธิ์จะอ่อนเพลีย เซื่องซึม เศร้าหมอ และหลับนาน ถ้าใช้เกินขนาดจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
             ดังนั้น การรักษาผู้ที่ติดยาม้าหรือยาบ้า จะต้องประกอบไปด้วย
             1. การให้ความรู้เกี่ยวกับยาม้าหรือยาบ้าแก่ผู้เสพติดแล้ว ให้เข้าใจโดยถ่องแท้ถึงพิษ
ของยาม้า หรือ ยาบ้า ที่มีต่อตัวผู้เสพติดทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อผู้เสพติดจะได้มีความ  กลัวต่อผลร้ายเหล่านั้น และมีความตั้งใจที่จะเลิกยาม้าหรือยาบ้าอย่างจริงจัง
             2. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมโดยรอบของผู้ติดยาม้าหรือยาบ้า ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่ขาดความ เข้าใจซึ่งกันและกัน ครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น ครอบครัวที่ขาดความเอาใจใส่  ที่ดีพอ รวมทั้งเพื่อนฝูง หรือชุมชนโดยรอบๆ บ้านของผู้ติดยาม้าหรือยาบ้า ตลอดจนเพื่อน  นักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งต้อง การการตรวจสอบหาข้อมูลอย่างจริงจัง หาข้อมูลให้ถึง  แก่นแท้ของปัญหาจากสิ่งแวดล้อม และดำเนินการ แก้ไขไปพร้อมๆ กับข้ออื่นๆ
             3. ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของผู้เสพติด และพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้ที่ติดยาเสพติด ที่จะต้องการละ หรือเลิกเสพยาม้าหรือยาบ้าตลอดไปให้ได้
            4. ผู้เสพติดยาม้าหรือยาบ้า จะต้องไปรับการรักษาจากสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง   จนกว่า จะหายจากการ เสพติดอย่างเด็ดขาด
             5. ความสำเร็จในการเลิกเสพติดยาม้าหรือยาบ้า ได้ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ซึ่งนอก   เหนือจาก การช่วยตนเองแล้ว ท่านได้ช่วยเหลือครอบครัวของท่าน ท่านได้ช่วยเหลือสังคม   โดยส่วนรวม อัน หมายถึง ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานั่นเอง
เยาวชนจะต้องรู้เท่าทันผู้ค้ายาเสพติด
           เยาวชนส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน มีเงินอยู่ในกระเป๋าเสมอสําหรับค่าขนม และค่าใช้จ่าย   ส่วนตัวที่จำเป็น ซึ่งพ่อแม่และผู้ปกครองให้มา จึงทำให้ผู้ลักลอบค้ายาเสพติด  มีความมั่นใจ ว่าการค้ายาเสพติด ให้กับเยาวชน นั้นจะทำให้มีลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ และใช้กลยุทธในการขาย  แบบขายตรง(Direct sale) ในกลุ่มเพื่อนสนิท และด้วยความเป็นเพื่อนสนิท จึงไม่กล้าเปิดเผย   ความผิดของเพื่อน และไม่กล้า ปฏิเสธเพื่อน จึงทำให้การแพร่ ่ระบาด ยาเสพติดเป็นไป อย่าง กว้างขวางและรวดเร็ว จึงจำเป็นที่เยาวชนจะต้องรู้เท่าทันกลลวงของผู้ค้า ยาเสพติดที่จ้อง จะดูดเงินค่าขนมในกระเป๋าของเยาวชนตลอดมา

                ติดกีฬาก็มีความสุขได้
            การเล่นกีฬาไม่ใช่เป็นแต่เพียงกิจกรรมทางเลือกที่เบี่ยงเบนความสนใจของเยาวชนให้  ห่างไกลยาเสพติดเท่านั้น แต่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เชื่อว่า การออกกำลังกายหรือ   การเล่นกีฬานั้น จะทำให้ต่อมไร้ท่อใต้สมอง หลั่งสาร เคมีชนิดหนึ่งชื่อ เอนโดฟีนออกมา  ซึ่งสารชนิดนี้จะทำให้รู้สึกสดชื่น และ เป็นสุขผู้ที่ออก กำาลังกาย อยู่เสมอจึงมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์สมกับที่กล่าวว่า กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ” ดังนั้น จึงควรที่จะช่วย กันส่งเสริม ให้เ ยาวชน ได้ออก กำลังกายและเล่นกีฬา เพื่อให้มีสาร เอนโดฟีนอยู่ในร่างกายเกิดความสุขได้
โดยไม่ต้องพึ่งพายาเสพ

เยาวชนกับการป้องกันยาเสพติด
ปัจจุบันเยาวชนที่ตกเป็นทาสของยาเสพติด ส่วนมากมาจากสาเหตุหลายประการที่เกิดจากตัวเยาวชนเอง เช่น
       - ความอยากรู้ อยากทดลอง ความคึกคะนองของเยาวชน
       - ความต้องการให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อนหรือเข้ากับเพื่อนได้
       - ความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเยาวชนใช้ยาในทางที่ผิดหรือหลงเชื่อคำโฆษณา
       - จิตใจของเยาวชนเอง จิตใจอ่อนแแอ ใจคอไม่หนักแน่น เมื่อมีปัญหา ไม่สมหวัง ไม่ไตร่ตรอง หาเหตุผลเพื่อแก้ปัญหา ก็ใช้ยาหรือยาเสพติดเป็นเครื่องช่วยระงับความ รู้สึกทุกข์ ์ของตน ใช้บ่อยๆ ทำให้เกิดการเสพติด ฉะนั้น การป้องกันและแก้ไขตนเอง ของเยาวชน ให้ปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด สามารถกระทำได้โดย
      ๑. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด และระมัดระวังในการใช้ยา
      ๒. รู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดี ส่งเสริมให้คิดและกระทำสิ่งดีมีประโยชน์ กล้าพูดปฏิเสธเพื่อนที่ชักจูงไป ในทางที่ไม่ดี เช่น การพูดปฏิเสธเพื่อนที่ชวนให้ลองเสพยาเสพติด
      ๓. ใช้เวลาว่าง และความอยากรู้ อยากลอง ไปในทางที่เป็นประโยชน์พึงระลึกเสมอว่า ตนเองนั้น มีคุณค่าทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
      ๔. มีความภาคภูมิใจและนับถือตนเอง ด้วยการไม่พึงพาหรือเกี่ยวข้องอบายุมขและสิ่งเสพติดใดๆ ซึ่งจะนำความเสื่อม ไปสู่ชีวิตของตนเอง
      ๕.รู้จักแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเองด้วยเหตุและผล
      ๖. รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง ด้วยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่และประพฤติแต่ในสิ่งที่ดีงาม จะช่วยให้เยาวชนประสบกับความสำเร็จในชีวิต
      ๗. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส เข้าใจวิธีการดำเนินชีวิตและยอมรับความเป็นจริง ที่ตนเองเป็นอยู่ โดยนำหลักศาสนามาเป็น แนวทางในการดำเนินชีวิต จะช่วยให้เยาวชนเกิดความมั่น   คงทาง ด้านจิตใจ มากขึ้น
      ๘. เมื่อมีปัญหา รู้จักปรึกษาผู้ใหญ่ พ่อ แม่ หรือผู้ที่ไว้วางใจ หรือ หน่วยงานต่างๆ ที่รับให้คำปรึกษา ในฐานะที่เยาวชนเป็น สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว จึงควรมีส่วนช่วย พ่อแม่ ผู้ปกครอง
             
ารป้องกันปัญหายาเสพติดแก่ครอบครัวของตนเอง
       ๑. ช่วย พ่อ แม่ สอดส่องดูแลน้องๆ หรือสมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัวมิให้กระทำสิ่งที่ผิด เช่น การคบเพื่อนที่ไม่ดี การมั่วสุมในอบายมุขและสิ่งเสพติด เยาวชนควรทำตัวเป็น  แบบอย่างที่ดีแก ่สมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัวด้วย เช่น การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ความมีระเบียบวินัย ความขยันหมั่นเพียร
       ๒. ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว มีความรักใคร่กลมเกลียวและมีความเข้าใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อมีปัญหา
       ๓. เมื่อมีโอกาสควรบอกกล่าวหรือตักเตือนสมาชิกคนอื่นๆภายในครอบครัว โดยเฉพาะ  น้องๆ  ให้รู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยของ ยาเสพติดวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย
       ๔. ช่วยทำให้ พ่อ แม่ เกิดความสบายใจและภาคภูมิใจด้วยการประพฤติดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แบ่งเบาภาระหน้าที่การงาน ของพ่อ แม่ ภายในบ้าน
การป้องกันการติดยาเสพติด
       ๑. ป้องกันตนเอง ไม่ใช้ยาโดยมิได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และจงอย่าทดลอง เสพยาเสพติด ทุกชนิดโดยเด็ดขาด เพราะ ติดง่ายหายยาก
      ๒. ป้องกันครอบครัว ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวหรือที่อยู่รวมกันอย่าให้ กี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้อง คอยอบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษและภัยของยา-เสพติด หากมีผู้เสพ ยาเสพติด ในครอบครัวจงจัดการให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ให้หายเด็ดขาดการรักษาแต่แรก เริ่มติดยาเสพติด มีโอกาสหายได้เร็วกว่าที่ปล่อยไว้นานๆ
      ๓. ป้องกันเพื่อนบ้าน โดยช่วยชี้แจงให้เพื่อนบ้านเข้าใจถึงโทษและภัยของยาเสพติด โดยมิให้ พื่อนบ้าน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องถูกหลอกลวง และหากพบว่าเพื่อนบ้านติด ยาเสพติดจงช่วย แนะนำให้ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
       ๔. ป้องกันโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ เมื่อทราบว่าบ้านใดตำบลใด มียาเสพติดแพร่ ่ระบาดขอให้แจ้ง เจ้าหน้าที่ ตำรวจทุกแห่งทุกท้องที่ทราบ หรือที่ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด ให้โทษ กรมตำรวจ (ศปส.ตร.) โทร. 2527962 , 0-252-5932 และที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) สำนักนายกรัฐมนตรี
โทร. 2459350-9
                      ยาเสพติดป้องกันได้

       ๑. ป้องกันตนเอง ทำได้โดย..          • ศึกษาหาความรู้ เพื่อให้รู้เท่าทันโทษพิษภัยของยาเสพติด
          • ไม่ทดลองใช้ยาเสพติดทุกชนิดและปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน
          • ระมัดระวังเรื่องการใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทำให้เสพติดได้
          • ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
          • เลือกคบเพื่อนดี ที่ชักชวนกันไปในทางสร้างสรรค์
          • เมื่อมีปัญหาชีวิต ควรหาหนทางแก้ไขที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด หากแก้ไขไม่ได้ควรปรึกษา ผู้ใหญ่

         ๒. ป้องกันครอบครัว ทำได้โดย           • สร้างความรัก ความอบอุ่นและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว
           • รู้และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
           • ดูแลสมาชิกในครอบครัว ไม่ให้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
           • ให้กำลังใจและหาทางแก้ไข หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวติดยาเสพติด

     
    ๓. ป้องกันชุมชน ทำได้โดย           • ช่วยชุมชนในการต่อต้านยาเสพติด
           • เมื่อทราบแหล่งเสพ แหล่งค้า หรือผลิตยาเสพติด ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที
ที่...
           • สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. หรือ 02-2470901-19 ต่อ 258    โทรสาร    02-2468526       
           • ศูนย์รับแจ้งข่าวยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1688

การรักษาผู้ติดยาเสพติด
     ผู้ที่ติดยาม้าหรือยาบ้าส่วนใหญ่จะได้แก่ ผู้ที่ทำงานในเวลากลางคืนผู้ใช้แรงงาน หรือผู้ที่ต้องทำงาน ติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น พนักงานขับรถโดยสารหรือรถบรรทุก ผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนตลอดจนนักเรียนนักศึกษาที่หัก โหมในการดูหนังสือ เหตุที่เป็นคนเหล่านี้เพราะคนเหล่านี้มักเข้าใจผิดคิดว่าหากใช้ยาม้าหรือ ยาบ้าแล้วจะสามารถทำงานหรือดูหนังสือได้นานมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้คำนึงถึงอันตรายและผลร้าย  ที่ตามมาภายหลังซึ่งได้แก่ สุขภาพจะทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิดใจ เพราะสมองถูกกระตุ้น ให้ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา เมื่อยาหมดฤทธิ์จะอ่อนเพลีย เซื่องซึม เศร้าหมอ และหลับนาน ถ้าใช้เกินขนาดจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
             ดังนั้น การรักษาผู้ที่ติดยาม้าหรือยาบ้า จะต้องประกอบไปด้วย
             1. การให้ความรู้เกี่ยวกับยาม้าหรือยาบ้าแก่ผู้เสพติดแล้ว ให้เข้าใจโดยถ่องแท้ถึงพิษ
ของยาม้า หรือ ยาบ้า ที่มีต่อตัวผู้เสพติดทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อผู้เสพติดจะได้มีความ  กลัวต่อผลร้ายเหล่านั้น และมีความตั้งใจที่จะเลิกยาม้าหรือยาบ้าอย่างจริงจัง
             2. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมโดยรอบของผู้ติดยาม้าหรือยาบ้า ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่ขาดความ เข้าใจซึ่งกันและกัน ครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น ครอบครัวที่ขาดความเอาใจใส่  ที่ดีพอ รวมทั้งเพื่อนฝูง หรือชุมชนโดยรอบๆ บ้านของผู้ติดยาม้าหรือยาบ้า ตลอดจนเพื่อน  นักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งต้อง การการตรวจสอบหาข้อมูลอย่างจริงจัง หาข้อมูลให้ถึง  แก่นแท้ของปัญหาจากสิ่งแวดล้อม และดำเนินการ แก้ไขไปพร้อมๆ กับข้ออื่นๆ
             3. ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของผู้เสพติด และพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้ที่ติดยาเสพติด ที่จะต้องการละ หรือเลิกเสพยาม้าหรือยาบ้าตลอดไปให้ได้
            4. ผู้เสพติดยาม้าหรือยาบ้า จะต้องไปรับการรักษาจากสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง   จนกว่า จะหายจากการ เสพติดอย่างเด็ดขาด
             5. ความสำเร็จในการเลิกเสพติดยาม้าหรือยาบ้า ได้ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ซึ่งนอก   เหนือจาก การช่วยตนเองแล้ว ท่านได้ช่วยเหลือครอบครัวของท่าน ท่านได้ช่วยเหลือสังคม   โดยส่วนรวม อัน หมายถึง ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

100 เรื่องที่เรายังไม่รู้

100 เรื่องที่เรายังไม่รู้

1. ในโตเกียว ญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยการเดินทางโดยรถจักรยานจะสามารถทำเวลาได้เร ็วกว่าการใช้รถยนต์ถึง 50นาที

2. มีรูปสัตว์ต่างๆชนิดกันในขนมปังคุ๊กกี๊กรอบแครกเกอร์ อยู่ 18 ชนิด

3. เจ้าฟ้าชายชาร์ล และ เจ้าชายวิลเลียมส์ไม่เคยเดินทางเสด็จไปในที่ต่างๆโดย ขึ้นเครื่องบินลำเดียวกันเลย

4. ร่างกายคนเราสร้างและทำลายเม็ดเลือดแดงถึง 15 ล้านเซลต่อวินาที

5. เคยสังเกตกันบ้างไม๊ในสำรับไพ่ไพ่คิงส์หัวใจจะเป็นคิ งส์ที่ไม่มีหนวด

http://images.boardgamegeek.com/images/pic199525_t.jpg เทียบกับ http://img74.imageshack.us/img74/2690/kingpg5.jpg

6. จะไม่มีนาฬิกาบอกเวลาในบ่อนคาสิโนที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ

7. มีเครื่องเล่นslot machine 1เครื่องในทุกๆ8คนของประชากรในลาสเวกัส สหรัฐฯ

8. Mona Lisa ไม่มีขนคิ้ว? อันเนื่องมาจากแฟชั่นสมัยเรเนอสซองค์ที่นิยมโกนคิ้วออก

9. ทุกวันจะมีธนาคารถูกปล้นถึง 20 ธนาคาร โดยเฉลี่ยแล้วจะได้เงินไป2,500$ต่อครั้ง

10. ชื่อที่ได้รับความนิยมเพื่อใช้ตั้งเป็นชื่อแรกมากที่ สุดในโลกคือ มูฮัมหมัด(Muhammad)

11. จุดมุ่งหมายดั้งเดิมนั้นผ้าปูโต๊ะอาหารมีไว้เพื่อเป็ นผ้าให้กับแขกที่มาดินเนอร์ได้เ ช็ดมือและหน้าหลังรับประทานเสร็จ

12. นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ควรจะรู้ไ ว้ ว่าการให้ทิปในร้านอาหารนั้นถือเป็นการดูถูก เหยียดหยาม

13. หลาน4คนของป๊อบอายมีชื่อว่าอะไรกันบ้าง มีPipeye, Peepeye, Pupeye, และ Poopeye

14. มีการใช้ชาอัดก้อนแทนการใช้เงินในไซบีเรียจนถึงศตวรร ษที่19

15. ในขณะกระจกแตก เศษแก้วจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 3,000ไมล์ต่อชั่วโมง

16. เครื่องบินโบอิ๊ง 747จะบรรจุเชื้อเพลิงได้ถึง57,285 gallons

17. ไวโอลิน 1 ตัวประกอบด้วยชิ้นส่วนของไม้ถึง 70ชิ้น

18. ต้องใช้เวลาถึง1ล้านปีเพื่อที่จะย่อยสลายแก้ว หรืออาจกล่าวได้ว่าแก้วเป็นวัสดุที่สามารถนำมารีไซเค ิลได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด

19. ไฟไหม้ป่าจะลุกลามไปทางด้านขึ้นเขาเร็วกว่าลามมาทางด้านลงเขา

20. มากกว่าครึ่งของปริมาณหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ขายในโลกนั้นอยู่ที่อเมริกาและแคนาดา

21. ลิปสติกที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีส่วนผสมของ เกล็ดปลา

22. ผลิตภํณฑ์แรกที่มีการนำรหัสราคาสินค้าBar code มาใช้คือ หมากฝรั่งWrigleys

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj66DJrpXIvDS247g21hJMug3dLUIGbez7rHPvqJHAyimZ0xnt3G55NrGrnurT51Qet6rnqxVIs7zS8PSJp_7EU7SHaKXQJNSNavgtOOp9SKAW2jKSAffFgdozr2egExZJPXxqB885JHd8B/s320/barcode%20wrigleys%20gum.jpg

23. คุณจะไม่สามารถพับครึ่งกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทบ ไปมาได้เกิน 7 ทบเลย

24. มีคนที่ถนัดซ้ายเสียชีวิตจากการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคน ถนัดขวามากกว่า 2,500คนต่อปี

25. ตึกเอมไพร์ สเตรทใช้ก้อนอิฐเป็นองค์ประกอบกว่า 10ล้านก้อน

26. จรเข้จะมีฟันงอกขึ้นมาทดแทนฟันเก่าเสมอ ไม่มีหมด

27. ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่กว่าโลกเรานี้ 330,330เท่า

28. " Jiffy "คือหน่วยของเวลาที่1/100ของวินาที

29. เม่น เป็นสัตว์ที่ลอยน้ำ

30. ประโยคที่ว่า"The quick brown fox jumps over a lazy dog" จะประกอบไปด้วยพยัญชนะของภาษาอังกฤษทั้งหมด 24ตัวไม่ซ้ำกันเลย อันนี้จขกท.ว่าคงจะเป็น21ตัวมากกว่าอ่ะไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่เค้าคงไม่รวมสระ a e i o u\

31. คำในภาษาอังกฤษที่ยาวที่สุดที่ไม่ใช้อักษรซ้ำกันเลย( 15อักษร) คือคำว่า "uncopyrightable"

32. สถิติเวลาสูงสุดที่บันทึกไว้ว่าไก่ที่บินได้นานที่สุ ดคือ 13 วินาที

33. ฉี่ของแมว สามารถเรืองแสงได้ในแสงแบล็คไลท์

34. เก้าอี้ไฟฟ้าที่ใช้ประหารนักโทษ ประดิษฐ์โดยทันตแพทย์

35. กังหันลมส่วนใหญ่จะหมุนตามเข็มนาฬิกา ยกเว้นกังหันลมในประเทศไอร์แลนด์ที่หมุนทวนเข็มนาฬิก า

36. หากก้มดูที่ซิป เห็นคำว่า YKK นั่นย่อมาจาก Yoshida Kogyo Kabushibibaisha ผู้ผลิตซิปรายใหญ่ที่สุดในโลก

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-cavuVr_MHbQ7Eiga6YxbB169MkWlg79lDbnYXIyIF1n_Xg1LuMQV4EKMo-ejFCXMIj_Q18tuO_7zX8JFNA9uIfB6-j6TdxtUqPPrnYj27b75ru820M66Lcc64oRUxPOOY3SSFfOkMuu_/s320/zip%20ykk.jpg

37. 40%ของกำไรที่McDonald ทำได้มาจากการขายชุดHappy Meals

38.. ช๊อคโกแลตฆ่าสุนัขได้,เป็นความจริงที่ว่าช๊อคโกแลตมี ผลต่อหัวใจและระบบประสาทของสุนัขเพียงไม่กี่ออนซ์ก็สามารถฆ่าสุนัขตัวเล็กๆได้แล้ว

39. เจ้าของคนแรกของบริษัท Marlboro Company ตายด้วยโรคมะเร็งในปอด

40. Leonardo da Vinciสามารถที่จะเขียนรูปด้วยมือข้างหนึ่ง และระบายสีด้วยมืออีกข้างหนึ่งไปพร้อมกันด้วย

41. มหัศจรรย์ตัวเลขหากคุณคูณ 111,111,111 X 111,111,111 ผลลัพท์ที่ได้คือ12, 345, 678, 987, 654, 321

42. ในระหว่างการจาม ตาของคนเราจะปิดอยู่เสมอ

43. แมลงสาบสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ถึง10วันแม้จะไม่มีหั ว

44. ลูกดิ่งYo-Yos ครั้งหนึ่งเคยใช้มาทำเป็นอาวุธในประเทศฟิลิปปินส์

45. กรุงMexico Cityทรุดจมลง10นิ้วทุกๆปี

46. "Dreamt" เป็นคำเดียวในภาษาอังกฤษทีมีลงท้ายด้วย"mt"

47. สมองของคนเราจะตื่นตัวในขณะหลับมากกว่าในขณะดูที วี

48. คนอียิปต์โบราณจะนอนหนุนหัวด้วยหมอนที่ทำมาจากหิน

49. จนกระทั่งปี ค.ศ.1796 เคยมีรัฐอยู่รัฐหนึ่งในอเมริกาที่ชื่อ Franklin ซึ่งในปัจจุบันก็คือรัฐTennessee

50. โดยเฉลี่ยคนเราจะมีความฝัน1,460ครั้งต่อปี

51. Thomas Edison ผู้คิดค้นประดิษฐ์หลอดไฟเป็นโรคกลัวความมืด

52. ภายใน1คืนตัวตุ่นสามารถขุดอุโมงค์ไปได้ไกลถึง 300ฟุต

53. ฮิปโปโปเตมัส สามารถอ้าปากได้กว้างจนเด็กที่มีความสูงขนาด4ฟุตสามา รถเข้าไปอยู่ที่ปากมันได้อย่าง
สบายๆ

54. โลกเรามีน้ำหนักราว 6,600,000,000,000,000,000,000ตัน(5,940 billion billion metric tons)

55. รัฐฟลอริดา เพียงแค่รัฐเดียวมีขนาดใหญ่กว่าประเทศอังกฤษทั้งประเทศ

56. มีนกมากกว่า 10,000ตัวต่อปีที่ตายจากการบินชนกระจกหน้าต่าง

57. มนุษย์เกิดมามีกระดูก 300ชิ้น แต่เมื่อเป็นเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะมีกระดูกเหลือเพียง2 06ชิ้น

58. กระดูกต้นขามนุษย์แข็งกว่าคอนกรีตเสียอีก

59. หัวใจของคนเรามีการเต้นมากกว่า 100,000ครั้งต่อวัน

60. อูฐเป็นสัตว์ที่มีเปลือกตาถึง3ชั้นเพื่อป้องกันแรงกร ะแทกจากพายุทะเลทราย

61. ในช่วงชีวิตคนเรา คนกินอาหารเข้าไปเทียบเป็นน้ำหนักได้เท่ากับ60,000ปอนด์(27,000กก.)หรือเทียบไดเท่ากับช้าง6ตัว

62. ปลาโลมาสามารถหลับได้โดยเปิดตาไว้ข้างหนึ่ง

63. พบชิ้นส่วนของหมากฝรั่งที่มีอายุเก่าที่สุดในโลก มีอายุถึง9,000ปี

64. ในอวกาศ, มนุษย์อวกาศไม่สามารถร้องไห้ได้ อันเนื่องมาจากสภาพไร้น้ำหนักทำให้ตาไม่สามารถไหล
ออกจากตาได้

65. เมื่อ3,000ปีมาแล้ว,ชาวอียิปต์ส่วนใหญ่ตาเมื่ออายุ 30 ปีเท่านั้น

66. คนส่วนใหญ่ใช้แปรงสีฟัน สีน้ำเงิน มากกว่า สีแดง

67. แรงลมที่ออกจากปากคนโดยการจามสามารถวัดความเร็วที่ออกจากปากคนเรามากกว่า 100ไมล์ต่อชั่วโมง

68. ในโลกนี้มีปรากฏการณ์ฟ้าผ่าเกิดขึ้นราวๆ 6,000ครั้งต่อนาที

69. นกเค้าแมวเป็นสัตว์ตระกูลนกชนิดเดียวที่เห็นสี น้ำเงิน

70. เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากทำการปิดประตูรถเสียงดังโครมคราม

71. ตัวแมงกะพรุนมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่สูงถึง 95 %

72. ช้างเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่กี่ชนิดที่ไม ่สามารถ กระโดด ได้

73. เพนกวินเป็นนกชนิดเดียวที่สามารถว่ายน้ำได้ แต่บินไม่ได้

74. จำนวน1ใน4 ของกระดูกมนุษย์อยู่ที่เท้า

75. คนชื่อ Charles Osborne คือคนที่จามมาแล้วกว่า 69 ปี

76. ยีราฟสามารถทำความสะอาดหูของมันด้วยการใช้ลิ้น(ที่มี ความยาวถึง 21นิ้ว)

77. การเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วยในขณะหั่นหัวหอมจะช่วยลดการ น้ำตาไหล

78. ค้างคาวจะบินเลี้ยวซ้ายเสมอเมื่อบินออกจากถ้ำ

79. มนุษย์เรามีการกระพริบตามากว่า 10 ล้านครั้งต่อปี

80. ในปี ค.ศ.พระสันตปาปา จอห์นปอลที่2 มีชื่อเดิมว่า "Honorary Harlem Globetrotter"

81. เพียงแค่น้ำมันเครื่องใช้แล้ว 1 แกลลอนจะทำความเสียหายกับน้ำสะอาดได้ถึง 1 ล้านแกลลอน

82. ฝุ่นละอองภายในบ้านส่วนใหญ่มาจากผิวหนังที่หมดอายุของคนที่หลุดลอกออกมา

83. โดยเฉลี่ยคนเรา หัวเราะ 13 ครั้งต่อวัน

84. ผู้ชายจะถูกฟ้าผ่ามากกว่าผู้หญิงถึง 6เท่า

85. คำในภาษาอังกฤษทั้งหมด , คำว่า "set" เป็นคำที่มีคำอธิบาย คำจำกัดความมากที่สุด (ไม่เชื่อไปเปิดพจนานุกรมอังกฤษ-ไทยดูซิ)

86. สาเหตุของการสำลักติดคอของคนอเมริกันส่วนใหญ่มาจาก ไม้จิ้มฟัน

87. ตัวอักษรในภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุดคือ ตัว "E" ส่วนตัวที่ใช้น้อยที่สุดคือ ตัว "Q"

88. ในโลกนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 50,000ครั้งต่อปี

89. ลายจมูกสุนัขสามารถนำมาใช้จำแนกตัวตนของสุนัขได้เช่น เดียวกับลายนิ้วมือของคน

90. หากนำแต้มขอของลูกเต๋าที่อยู่ตรงข้ามกันมาบวกกันจะได ้เท่ากับ 7เสมอ

91. วัวกระทิง ตาบอดสี เพราะฉะนั้นการที่มันวิ่งเข้าชาร์จมาธาดอร์จึงไม่ได้มาจากการโบกผ้าสีใดๆเลย

92. จากการศึกษาพบว่า แอปเปิ้ล มีประสิทธิผลในการแก้ง่วงนอนในตอนเช้าได้ดีกว่าคาเฟอีนเสียอีก

93. กบมีพิษที่ชื่อว่า poison-arrow มีพิษรุนแรงที่สามารถฆ่าคนได้ถึง 2,200 คนเลยทีเดียว

94. โดยเฉลี่ยภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกจะมีน้ำหนักประมาณ 20 ล้านตัน

95. กลิ่นของกล้วยและ/หรือแอปเปิ้ลเขียว(กลิ่นเท่านั้น ไม่ใช่กินเข้าไปนะ) มีสรรพคุณสามารถช่วยลดน้ำหนักได้

96. หลังแมลงวันกินอาหารแล้ว มันจะขย้อนออกมาแล้วจึงกินกลับเข้าไปอีกครั้ง

97. ก้อนทองคำขนาดเท่ากล่องไม้ขีด สามารถนำมาตีให้เป็นแผ่นแบนได้เท่ากับขนาดสนามเทนนิส

98. ชื่อเดิมของผีเสื้อ(Butterfly)คือ "Flutterby" !

99. Ernest Vincent Wright เขียนนวนิยายเรื่อง "Gadsby",ซึ่งมีคำมากกว่า50,000คำ แต่เหลือเชื่อที่ไม่มีคำใดเลยที่ใช้อักษร "E"

100. เล็บนิ้วมือจะงอกได้เร็วกว่าเล็บเท้าเกือบ4เท่า